การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
ความหมายของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
การอนุรักษ์ (Conservation) หมายถึง การรู้จักการใช้ทรัพยากรอย่างชาญฉลาดได้เป็นประโยชน์ต่อมหาชนมากที่สุดและใช้ได้เป็นเวลายาวนานที่สุด ทั้งนี้ต้องให้สูญเสียทรัพยากรโดยเปล่าประโยชน์น้อยที่สุด และต้องกระจายการใช้ประโยชน์โดยทั่วถึงกันด้วย การอนุรักษ์ไม่ใช่เป็นการเก็บรักษาทรัพยากรไว้เฉย ๆ แต่เป็นการนำมาใช้ประโยชน์ให้ถูกต้องตามกาลเทศะนั่นเอง (นิวัติ, 2537)
สาเหตุที่ต้องมีการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ความเจริญส่วนใหญ่ของมนุษย์ขึ้นอยู่กับปริมาณของการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ถึงแม้จะมีความก้าวหน้าทางด้านวิชาการเพียงใด แต่ปริมาณของวัตถุดิบที่ จำเป็นในการพัฒนากิจกรรมอุตสาหกรรมก็ยังเป็นหลักใหญ่ที่จะบันดาลให้เศรษฐกิจของประเทศเจริญก้าวหน้าไปได้หรือไม่ ความเจริญทางเศรษฐกิจของประเทศที่ก้าวหน้าทั้งหลายล้วนแต่มีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นทุนสำคัญ ทั้งนี้เพราะประเทศที่ขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาตินั้นแม้ว่าจะมีความเจริญทางด้านอื่น แต่ยังเสียเปรียบในเรื่องความสมบูรณ์พูนสุขที่ประชากรของตนจะได้รับ เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติมากกว่าในแง่เศรษฐกิจ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ก่อให้เกิดการผลิตเพื่อสนองความต้องการของมนุษย์ การผลิตมีองค์ประกอบที่สำคัญ คือ
1. ทุน (Capital)
2. วิทยาการและการประดิษฐ์ (Technology and Innovation)
3. ทรัพยากร (Resources) แบ่งออกเป็นทรัพยากรธรรมชาติ และทรัพยากรมนุษย์ การผลิตในด้านเศรษฐกิจแยกออกได้เป็นการผลิตสิ่งของและบริการ ทรัพยากรธรรมชาติจะถูกนำมาใช้ในการผลิตทั้งในภาคการเกษตรและอุตสาหกรรม ในด้านการเกษตร
ทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นปัจจัยการผลิตโดยตรงได้แก่ ดิน น้ำ ส่วนทางด้านอุตสาหกรรม ได้แก่ สินแร่ และพลังงาน อย่างไรก็ตามทรัพยากรธรรมชาติจะมีประโยชน์ต่อเมื่อได้นำออกมาใช้เพื่อเศรษฐกิจและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในด้านเศรษฐกิจนั้นจะต้องคำนึงถึงหลักการอนุรักษ์ และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติพร้อมกันไปด้วย ปัจจุบันเราต้องยอมรับความจริงว่าทรัพยากรมีอยู่จำกัด ทรัพยากรต่าง ๆ มีวันที่จะหมดไป ถ้าไม่หมดหรือสูญหายอาจเปลี่ยนสภาพที่ทำให้ไม่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์สภาพปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นจากน้ำมือของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาดินเสื่อมคุณภาพ พื้นที่ป่าไม้สัตว์ป่าลดจำนวนลง โดยเฉพาะป่าชื้นเขตร้อน (ป่าดงดิบ) ที่เปรียบเสมือนมหาสมุทร สีเขียวบนพื้นโลก ป่าชื้นเขตร้อนเป็นแหล่งกำเนิดของสิ่งมีชีวิตไม่ว่าจะเป็นพันธุ์พืช สัตว์นานาชนิดตลอดจนต้นน้ำลำธาร ที่หล่อเลี้ยงโลกให้ชุ่มชื้นและมีอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตนอกจากนี้ยังทำหน้าที่ควบคุมภูมิอากาศ จะเห็นได้ว่าภัยพิบัติที่เกิดจากความแห้งแล้ง ซึ่งเพิ่มความแห้งแล้งมากขึ้นทุกปี เป็นผลมาจากจำนวนมนุษย์ที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศโลกที่สาม ความต้องการเพิ่มพื้นที่การเกษตรทำให้มนุษย์หักร้างถางพง เผาป่าทำไร่เลื่อนลอยใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลง เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ทำให้มีสิ่งปนเปื้อนอยู่ในแหล่งน้ำตั้งแต่ต้นแม่น้ำจนถึงปากแม่น้ำ จนกระทั้งทะเล มหาสมุทร ขณะที่ในอากาศมีปัญหาเรื่องมลพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ของน้ำมันเชื้อเพลิงที่ไม่สมบูรณ์ รวมไปถึงการปล่อยควันที่มีส่วนประกอบที่ไม่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ จากโรงงานอุตสาหกรรม การขาดแคลนอาหาร และพลังงาน ในบางส่วนของโลกเกิดขึ้นเพราะประชากรกำลังจะล้นโลก เหล่านี้ล้วนเป็นภัยอันตรายที่มนุษย์กำลังเผชิญอยู่ และต้องประสบปัญหามากยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้มนุษย์ถือว่าตนเองเป็นเจ้าแห่งทรัพยากรทั้งหลายที่มีอยู่ในโลก มนุษย์พยายามใช้ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวด-ล้อม ในการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ ใช้พลังงานจากสมองคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ทั้งทางวิศวกรรม การแพทย์ไว้รับใช้และปกป้องชีวิตของมนุษย์ให้ยืนยาว จากข้างต้นโดยสรุปสาเหตุหลักที่ต้องมีการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีดังนี้
1) ข้อจำกัดในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ
2) การเพิ่มขึ้นของประชากรมนุษย์ในอนาคต
3) การใช้ทรัพยากรธรรมชาติในการพัฒนาเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น
4) ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติทวีมากขึ้น
5) เป็นการแสดงออกทางวัฒนธรรมของสังคมที่เจริญ
หลักการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนั้น ต้องมีหลักการเพื่อเป็นพื้นฐาน ดังต่อไปนี้
1) ทรัยพากรธรรมชาติแต่ละชนิดต่างมีความสัมพันธ์ซี่กันและกันอย่างใกล้ชิด การกระทำต่อทรัพยากรธรรมชาติประเภทใดประเภทหนึ่ง จะมีผลต่อทรัพยากรธรรมชาติประเภทอื่นอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก จึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนที่จะนำมาใช้ประโยชน์
2) การทำลายทรัพยากรธรรมชาติด้วยสาเหตุใดก็ตามเท่ากับเป็นการทำลายคุณภาพชีวิตและความเจริญของประเทศ แต่ก็ต้องยอมรับว่าทุกครั้งที่มีการใช้หรือแปรเปลี่ยนสภาพของทรัพยากรธรรมชาติจะต้องมีการสูญเสียทุกครั้งไป ดังนั้นจึงต้องให้สูญเสียน้อยที่สุด
3) การอนุรักษ์มีความเกี่ยวข้องกับมนุษย์ทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ในเมืองหรือชนบท อาชีพใดๆ ก็ตาม เนื่องจากทุกคนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติทั้งสิ้น
4) การวางแผนการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ต้องไม่แยกมนุษย์ออกจากสภาพแวดล้อมทางสังคมหรือทางธรรมชาติ
5) การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติต้องให้เกิดประโยชน์กับมหาชนให้มากที่สุด และให้อยู่นานที่สุด เท่าที่จะกระทำได้
6) ประหยัดทรัพยากรธรรมชาติที่หายากและใกล้สูญพันธุ์
7) เมื่อทรัพยากรธรรมชาติชนิดใดชนิดหนึ่งเสื่อมโทรม ต้องมีการปรับปรุงและซ่อมแซมให้คืนสภาพเสียก่อนแล้วจึงค่อยนำไปใช้ จะทำให้ระบบสิ่งแวดล้อมดีขึ้น
8) การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอาจต้องพิจารณาร่วมกันในด้านเศรษฐกิจและทางนิเวศวิทยา ต้องเป็นการใช้ตามหลักการทางนิเวศพัฒนา (Ecodevelopment)
วิธีการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ใช้ในปัจจุบัน การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยทั่ว ๆ ไป มีวิธีการหลายรูปแบบ ดังนี้
1) การถนอมและรักษา
2) การบูรณะฟื้นฟู
3) การลดปริมาณของเสีย
(1) การหมุนเวียนกลับมาใช้ (Recycle)
(2) การใช้ซ้ำ (Reuse)
(3) การซ่อมแซม (Repair)
(4) การลดปริมาณการใช้ (Reduce)
(5) การปฏิเสธการใช้ (Reject)
4) การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน
5) การใช้สิ่งอื่นทดแทน
6) การค้นหาทรัพยากรแหล่งอื่นมาใช้
วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น