วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552



สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในแนวปะการัง

1. สาหร่ายเซลเดียว มีความสำคัญต่อชีวิตในแนวปะการังอื่นๆ เพราะทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตธาตุอาหารเบื้อต้นด้วยการสังเคราะห์แสงจากพลังงานแสดงอาทิตย์สาหร่ายเป็นอาหารแก่สิ่งมีชีวิตอื่นๆ ได้แก่ ตัวปะการัง และแพลงก์ตอน
สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในแนวปะการัง
1. สาหร่ายเซลเดียว มีความสำคัญต่อชีวิตในแนวปะการังอื่นๆ เพราะทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตธาตุอาหารเบื้อต้นด้วยการสังเคราะห์แสงจากพลังงานแสดงอาทิตย์สาหร่ายเป็นอาหารแก่สิ่งมีชีวิตอื่นๆ ได้แก่ ตัวปะการัง และแพลงก์ตอน

2. หญ้าทะเล เจริญเติบโตได้ดีในแนวปะการังที่ราบเรียบ และบริเวณชายฝั่งทะเลหญ้าทะเลเป็นอาหารของเต่าทะเลพะยูนและปลาบางชนิด นอกจากนี้รากของหญ้าทะเลยังช่วยในการป้องกันการกัดเซาะหน้าดินอีกด้วย
3. ฟองน้ำ เป็นสัตว์น้ำหลายเซลมีขนาดต่างๆ กัน ทั้งลักษณะและรูปร่างสีสัน บางชนิดเป็นรูปด้วยเป็นก้อน เป็นแผ่นบางๆ และบางชนิดมีสีสันสดสวยงดงามมาก ฟองน้ำทำหน้าที่ผลิตสารที่มีคุณค่าให้แก่เพรียง หญ้าทะเล สัตว์น้ำอื่นและฟองน้ำบางชนิดยังเป็นอาหารของมนุษย์ด้วย
4. ปะการังอ่อน ปะการังชนิดนี้ไม่สร้างโครงหินปูนห่อหุ้มตัวแต่จะสร้างโครงหินปูนภายในตัวของมันเองสามารถสะบัดไหวไปมาตามกระแสน้ำได้จึงเรียกว่าปะการังอ่อนมีลักษณะเป็นแท่งเรียวเหมือนเขาสัตว์ซึ่งสามารถโก่งงอได้มีสีสันหลายหลายสวยงามทั้งที่เติบโตเป็นต้น เป็นกอและเป็นแผ่น
5. กัลปังหา เป็นปะการังที่มีหลายสีรูปทรงเรียวยาวและมีกิ่งก้านสาขาแผ่คล้ายต้นไม้ กิ่งก้านหนึ่งของกัลปังหาอาจมีความยาวตั้งแต่ 2-3 นิ้ว ไปจนถึงความยาวเป็นเมตร
6. ดอกไม้ทะเล เป็นสัตว์กลุ่มเดียวกับปะการังมีรูปร่างทรงกระบอกด้านล่างเป็นฐานยึดติดกับก้อนหิน มีหนวดมีเข็มพิษสำหรับจับปลาเล็กๆ กินเป็นอาหาร มีสันของดอกไม้ทะเล คือ ปลาการ์ตูนซึ่งนอกจากจะมีสีสวยงามแล้ว ยังมีเมือกกันพิษจากดอกไม้ทะเลหุ้มตัวอยู่ ทำให้ไม่ได้รับอันตราย

7. หนอนทะเล มีหลายชนิด บางชนิดมีขนาดเล็กอาศัยอยู่ในรอยแตกหรือซอกหินของแนวปะการังมีรูปร่างสีสันสวยงาม หนอนทะเลเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการแตกสลายของปะการังโดยการขุดโพรงเป็นที่อยู่อาศัยเศษหินที่ขุดออกมาก็จะกลายเป็นเศษหินหรือทราย8. สัตว์อื่นๆ ที่อาศัยในแนวปะการังหอย ได้แก่ หอยเบี้ย หอยสังข์ หอยนางรม หอยมือเสือ หอยเต้าปูน และหอยสังข์แตร โดยหอยสังข์แตรเป็นหอยที่กินปลาดาวมงกุฎหนามซึ่งเป็นศัตรูของปะการังจึงมีความสำคัญต่อปะการังสูงมาก
หมึกทะเล เป็นหอยชนิดที่ไม่มีเปลือก ลำตัวอ่อนนุ่มมีหนวดสำหรับจับเหยื่อจำพวก กุ้ง ปู ปลา เป็นอาหารหมึกทะเลจะพ่นหมึกสีดำจากตัวในเวลาที่จะหนีศัตรู หมึกทะเลมี 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ หมึกยักษ์และหมึกธรรมดา ซึ่งได้แก่ หมึกกล้วย หมึกกระดอง

กุ้งและปู เช่น ปูปะการัง มีกระดองกว้างถึง 6 นิ้ว กระดองมีสีแดงสลับเหลืองอ่อนและสีขาวเป็นปูที่มีก้ามแข็งแรงมาก และใช้เป็นอาวุธสำหรับจับเหยื่อ กุ้งพยาบาล ลำตัวมีสีแดงสลบขาว กินตัวพยาธิที่เกาะอยู่ตามผิวหนังของปลาที่อาศัยอยู่ในแนวปะการังเป็นอาหาร จึงเรียกว่ากุ้งพยาบาล กุ้งมังกร เป็นกุ้งขนาดใหญ่ มีความยาวถึง 2 ฟุตและมีน้ำหนัก เมื่อโตเต็มที่เกือบถึง 12 กิโลกรัม ตัวมีสีน้ำเงินหัวใหญ่มีหนามและมีหนวดอยู่ 2 เส้น หนวดมีความยาวมากกินหนอนทะเล ทากทะเลและปูเป็นอาหาร ปัจจุบันกุ้งมังกรเป็นที่นิยมบริโภคจึงถูกจับขึ้นมาจากท้องทะเลด้วยน้ำหนักเพียง 1-2 กิโลกรัมทำให้กุ้งมังกรค่อยๆ สูญพันธุ์ไปจากทะเลอย่างรวดเร็ว

ปลาต่างๆ ปลาที่อาศัยอยู่ในแนวปะการังมีทั้งปลาที่เป็นอาหารและปลาประเภทสวยงาม ได้แก่ปลาสิงโต ปลานกแก้ว ปลาการ์ตูน และปลาผีเสื้อ โดยเฉพาะปลาการัง หรือปลาเก๋าปลาชนิดนี้เมื่อโตเต็มที่จะมีลำตัวใหญ่มาก มีความยาวถึง 2 เมตรปลานกแก้วนอกจากจะเป็นปลาสวยงามแล้วยังมีปากและขากรรไกรที่แข็งแรงคล้ายนกแก้วมีฟันหลายแถว กินสาหร่ายและปะการังเป็นอาหาร ปลานกแก้วจะกัดทั้งก้อนปะการังและจะย่อยเฉพาะตัวปะการัง ส่วนโครงสร้างแข็งนั้นจะขับถ่ายคายออกมาเป็นเศษละเอียดกลายเป็นเม็ดทรายละเอียดต่อไป

สัตว์ที่มีผิวหนังเป็นปุ่ม ที่อาศัยทั่วไปในแนวปะการัง ได้แก่ หอยเม่น มีหลายชนิดโดยทั่วไปมีรูปร่างกลม มีหนามที่ผิวหอยเม่นที่พบส่วนใหญ่จะมีสีดำ หนามเปราะหักตำได้ง่ายแต่ที่อาศัยอยู่ในแนวปะการังนั้น มีทั้งชนิดหนามสั้น หนามยาว หนามแหลม หนามทู่ และหอยเม่นที่นิยมเก็บมาทำของที่ระลึก ได้แก่ หอยเม่นหนามสั้น และหอยเม่นดินสอ ดาวทะเล มีหลายชนิด หลายสีรูปร่างแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนคือ ส่วนลำตัว และส่วนแขนที่แยกออกไปเป็นแฉกคล้ายรัศมีดาว ส่วนใหญ่มีรัศมี 5 แฉก บางชนิดอาจมีมากกว่านั้น ดาวทะเลส่วนใหญ่กินหอยเป็นอาหาร แต่มีดาวทะเลชนิดกินปะการังเป็นอาหาร ได้แก่ ดาวมงกุฎหนาม ดาวมงกุฎหนาม หรือที่เรียกว่าปลาดาวหนาม (Crown of Thorns Starfish) เป็นสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง รูปร่างมีลักษณะเป็นแฉกคล้ายดาวและมีหนามอยู่บนผิวหนังรอบตัวบริเวณใต้แขนที่เป็นแฉกแต่ละแขนจะมีขาเป็นหลอดสั้นเรียงกันเป็นแถวสำหรับใช้จับอาหารและเคลื่อนที่การเคลื่อนที่นี้เป็นไปอย่างเชื่องช้า แต่สามารถเคลื่อนที่ได้ทุกแนวระดับตามพื้นท้องทะเล ดาวมงกุฎหนามจะกินเนื้อเยื่อของปะการังเป็นอาหาร
ปะการังที่ถูกดาวมงกุฎหนามกินมากที่สุด ได้แก่ ปะการังเขากวาง ปะการังเห็นและปะการังที่ไม่ถูกดาวมงกุฎหนามกินเลย ก็คือปะการังสีน้ำเงิน

น้ำตกกรุงชิง




น้ำตกกรุงชิง


น้ำตกกรุงชิง ตั้งอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวง ตำบลกรุงชิง กิ่งอำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช น้ำตกกรุงชิง เป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม เป็นแหล่งต้นน้ำสายสำคัญที่หล่อเลี้ยงชาว จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดใกล้เคียง ที่มาของชื่อ กรุงชิง มาจากพรรณไม้ชนิดชนิดหนึ่งในตระกูลปาล์ม ชื่อว่า "ต้นชิง" ที่มีอยู่มากมายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวง จากที่ทำการอุทยานฯ นักท่องเที่ยวจะต้องเดินเท้า เพื่อเข้าไปชมความยิ่งใหญ่ของน้ำตก โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ (ไป-กลับ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง) เส้นทางบางช่วงเป็นทางลาดชัน แต่ก็ไม่มากนัก สามารถเดินไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติได้อย่างสะดวก


น้ำตกกรุงชิง ประกอบไปด้วยน้ำตก 6 ชั้น มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป อันได้แก่ หนามมัดแพ หนานฝนแสนห่า หนานปลิว หนานโจร หนานต้นตอ หนานวังเรือบิน ชั้นที่มีความสวยงามมากที่สุดคือ หนานฝนแสนห่า มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงประมาณ 100 เมตร กระแสนน้ำไหลผ่านทิ้งตัวลงมาสู่เบื้องล่าง ซึ่งเป็นแอ่งน้ำตรงจุดนี้นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้


จากความเป็นเมื่อครั้งอดีต ณ ที่บริเวณนี้เคยเป็นฐานปฏิบัติการ และที่อยู่อาศัยของพรรคคอมมิวนิสต์ มาก่อน ดังนั้นในเส้นทางศึกษาธรรมชาติจากที่ทำการอุทยานฯ สู่น้ำตกกรุงชิง บางจุดจึงมีชื่อเรียกขานตามเหตุการณ์ในช่วงนั้นๆ เช่น


มหาสดำ คือเฟิร์นโบราณ เป็นเฟิร์นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ขนายพันธุ์ด้วยสปอร์ที่อยู่ใต้แผ่นใบ และอาศัยน้ำเป็นตัวผสมจึงเกิดเป็นต้นใหม่ได้ มหาสดำชอบขึ้นอยู่ตามป่าดิบชื้นตามแหล่งต้นน้ำลำธารดงชก เป็นพืชวงศ์ปาล์ม สามารถนำผลมาเชื่อมทำเป็นลูกชิดแล้วกินได้ ดงชกเมื่อออกดอกจะติดผลเพียงครั้งเดียว จากนั้นต้นก็จะตายไป เป็นพืชที่มีความแปลกอีกชนิดหนึ่งหลุมชวาก มีอยู่หลายๆ แห่งรอบๆ เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ หลุมชวาก เป็นหลุมพราง ที่ฝ่ายคอมมิวนิสต์ทำขึ้น โดยขุดหลุมแล้วนำไม้แหลม หรือหนามต่างๆ ลงไปปักไว้ เพื่อเป็นการขัดขวาง หรือตัดกำลัง ฝ่ายตรงข้ามในการเข้าโจมตีฐานปฏิบัติการ


บันไดสามขั้น บริเวณจุดที่เรียกว่า บันไดสามขั้นนี้ ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ของฝ่ายคอมมิวนิสต์ ในช่วงการสู้รบ มีทหารจากฝ่ายรัฐบาลมาเสียชีวิตอยู่ในบริเวณนี้เป็นจำนวนมาก ปัจจุบันบริเวณนี้ค่อนข้างลื่นและชัน นักท่องเที่ยวควรเดินด้วยความระมัดระวัง


ศาลาประตูชัย นักท่องเที่ยวสามารถแวะพักเหนื่อยได้ที่ศาลานี้ บริเวณนี้มีต้นไทรคู่ขนาดใหญ่ เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของนกนานาชนิด นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการดูนก สามารถเฝ้าชมได้จากจุดนี้อีกจุดหนึ่ง


ถ้ำประตูชัย สนามบาส ถ้ำประตูชัยเป็นถ้ำที่ฝ่ายคอมมิวนิสต์ใช้เก็บเสบียงอาหาร ใกล้ๆ กันมีพื้นที่โล่งใช้เป็นสนามบาสเก็ตบอลในป่า เพื่อการออกกำลังกาย หรือเป็นลานอเนกประสงค์ในโอกาสต่างๆ ป่าชิง บริเวณนี้มีศาลาเป็นจุดพักระหว่างการเดินสู่น้ำตก รายรอบไปด้วยต้นชิง ซึ่งเป็นพืชในวงศ์ปาล์ม ซึ่งเป็นที่มาของชื่อป่าแถบนี้


ช้างร้องไห้ เป็นพืชในวงศ์ปาล์มขนาดใหญ่ และหายากชนิดหนึ่ง ใบมีลักษณะเป็นหยัก และคม นักท่องเที่ยวควรระมัดระวัง เพราะเมื่อไปสัมผัสแล้วจะมีอาการคัน และปวดแสบร้อนที่ผิวหนังได้ ศาลาฝนแสนห่า และ น้ำตกกรุงชิง เป็นศาลาสุดท้าย และเป็นจุดสิ้นสุดของเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ สู่น้ำตกกรุงชิง เป็นศาลาที่เปิดโล่ง นักท่องเที่ยวสามารถพักผ่อนชมความสวยงามของ น้ำตกกรุงชิง ได้อย่างเพลิดเพลิน


อุทยานแห่งชาติเขาหลวง ยังมีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ที่มีความน่าสนใจอีกหลายเส้นทาง รอคอยนักท่องเที่ยวมาสัมผัส วันนี้ผมได้แนะนำเส้นทางสู่น้ำตกกรุงชิง เพื่อว่าท่านที่สนใจจะได้เก็บไว้เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่ง ที่ท่านจะได้มาเยือนในวันหยุดพักผ่อนของท่าน ภาคใต้ของเราถึงแม้จะมีความไม่สงบอยู่บ้าง แต่นั่นก็เพียงในบางพื้นที่เท่านั้น กรุงชิง ในวันนี้ได้ผ่านเหตุการณ์เลวร้าย แห่งแนวคิดความแตกแยกนั้นมาแล้ว ปัจจุบันมีแต่ความเงียบสงบ ป่าที่เขียวสด สายน้ำใสบริสุทธิ์ฉ่ำเย็น กำลังไหลหล่อเลี้ยงสรรพชีวิตด้วยสัจจะ ที่ว่า "ธรรมชาติไม่เคยทำร้ายใครก่อน"

อุทยานแห่งชาติเขาหลวง มียอดเขาหลวงสูงสุด 1,835 เมตร จากระดับน้ำทะเล ซึ่งสูงที่สุดในภาคใต้เป็นแหล่งของต้นน้ำลำธารและคลองต่าง ๆ กว่า 15 สาย มีสภาพเป็นป่าดงดิบชื้นและป่าดิบเขา เส้นทางการเดินในอุทยานเป็นวงรอบ มีธรรมชาติที่สวยงามและมีความหลากหลายทางชีวภาพ มีพืชและสัตว์ที่หายากอยู่มากมาย บางชนิดพบได้ที่เขาหลวงเท่านั้น ชุมชนโดยรอบ ตลอดจนนักท่องเที่ยวเข้าใจความสำคัญของธรรมชาติและสามารถจัดระบบรองรับนักท่องเที่ยวที่ดี ทำให้อุทยานฯ แห่งนี้ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม ( Thailand Tourism Awards) ประจำปี 2541 รางวัลยอดเยี่ยม ประเภท แหล่งท่องเที่ยวธรรมชา
ขอขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ฝ่ายส่งเสริมตลาดในประเทศ
สำนักงาน ททท. ภาคใต้ เขต 2 สนามหน้าเมือง ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช 80000โทร. 0 7534 6515-6 โทรสาร 0 7534 6517 Website :www.tat.or.th./south2E-mail Address :tatnksri@tat.or.thพื้นที่ความรับผิดชอบ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง
อุทยานแห่งชาติเขาหลวงโทร. 0 7535 4839 จองที่พัก ได้ที่ โทร. 0 2562 0760
รถยนต์ เส้นทางหลวงหมายเลข 4 กรุงเทพฯ-ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านสุราษฎร์ธานี-ทุ่งสง จนถึงนครศรีธรรมราช หรือถึงอำเภอพุนพิน สุราษฎร์ธานี แล้วใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 401 เลียบชายฝั่งทะเลไปจนถึงนครศรีธรรมราช รวมระยะทาง 780 กิโลเมตร
รถไฟ จากสถานีรถไฟหัวลำโพง มีขบวนรถเร็ว และรถด่วน ไปนครศรีธรรมราช รวมระยะทาง 832 กิโลเมตร สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 1690, 0 2223 7010, 0 2223 7020 หรือจองบัตรโดยสารรถไฟได้ที่ โทร. 0 2220 4444 website:
http://www.railway.co.th/ สถานีรถไฟนครศรีธรรมราช โทร. 0 7535 6364, 0 7534 6129